เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย นอกจากต้องระวังโรคภูมิแพ้อากาศแล้ว ยังมีภัยเงียบอย่าง ‘โรคหอบหืด’ อีก แต่โรคหอบหืดอาการเป็นอย่างไรและมีวิธีดูแลตนเองอย่างไรบ้าง มาดูกัน

‘โรคหอบหืด’ อาการเป็นอย่างไร และมีวิธีดูแลตนเองอย่างไรบ้าง

 

เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเป็นช่วงเวลาต้องดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี เพราะมีโรคร้ายหลายโรคพร้อมจะพุ่งตัวมาหาคุณ เริ่มตั้งแต่ ‘ภูมิแพ้อากาศ’ ไปจนถึง ‘โรคหอบหืด’ แต่หลายคนก็ยังคงสับสนคิดว่าทั้งสองโรคนี้เป็นโรคเดียวกัน เพราะอาการเหมือนจะเชื่อมโยงคล้ายกันอยู่บ้าง เพื่อให้ทุกคนได้รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกต้อง เราเลยขอมาบอกต่ออาการของโรคหอบหืดเป็นอย่างไรและมีวิธีดูแลตนเองอย่างไรบ้าง

 

‘โรคหอบหืด’ ภัยร้ายที่มักจะมาช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

เหตุผลที่เราต้องเรียกโรคหอบหืดว่า เป็น ‘ภัยร้าย’ ก็เพราะในบรรดาโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจในกลุ่มภูมิแพ้มี ‘โรคหอบหืด’ ที่เกิดจากการอักเสบของหลอดลมเรื้อรังร่วมกับหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นผิดปกติ นี่แหละที่อาการรุนแรงหนักที่สุด โดยมีสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคหอบหืดมากถึง 1,000 คนต่อปีและมีผู้ป่วยโรคหอบหืดอาการรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉินกว่า 1 ล้านครั้งต่อปี หากรักษาไม่ทันท่วงทีหรือดูแลตัวเองไม่ถูกต้อง คุณหรือคนที่คุณรักก็อาจเป็นหนึ่งในสถิติเรานั้นได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่โรคหอบหืดมักจะมาในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เพราะเกิดการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายและบางสภาพอากาศก็ไปกระตุ้นอาการได้เหมือนกัน เช่น อากาศหนาวและแห้งก็อาจทำให้โรคหอบหืดกำเริบจากหลอดลมหดตัวหรือฤดูฝนที่ก่อให้เกิดเชื้อราในอากาศจนหอบหืดมาเยือนได้ ฯลฯ

 

‘โรคหอบหืด’ อาการเป็นอย่างไร

สำหรับท่านใดที่อยากเช็ค ‘โรคหอบหืด’ ว่ามีอาการเป็นอย่างไรบ้างตรงกับที่คุณหรือคนที่คุณรักกำลังเป็นอยู่หรือไม่ มาดูกัน

• ไอบ่อย

สัญญาณแรกของการเป็นโรคหอบหืดคือการไอแต่การไอพี่ว่าไม่ใช่การไอแบบทั่วไปเพราะคนเป็นโรคหอบหืดมักจะไอต่อเนื่องสองถึงสามสัปดาห์ขึ้นไปและอาจไอเฉพาะบางเวลา เช่น ไอเฉพาะตอนกลางคืนหรือขณะออกกำลังกาย

• หายใจแล้วมีเสียงหวีด

นอกจากผู้ป่วยโรคหอบหืดจะไอบ่อยแล้ว เวลาหายใจก็ยังมีเสียงแปลกโผล่มาบ่อย ๆ โดยมักจะเป็นเสียงหวีดดังวี้ดเหมือนมีนกหวีดอยู่ในปอด เพราะมีการอักเสบในหลอดลบลมและมีหลอดลมตีบทำให้หายใจไม่สะดวก

• แน่นหน้าอกหรือเหนื่อยหอบ

เหตุผลมาจากเรื่องเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมีปัญหาตามที่เราได้พูดถึงไปในข้อก่อนหน้านี้ทำให้บางครั้งผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดมักจะมีอาการแน่นหน้าอกหรือเหนื่อยหอบได้ง่ายกว่าปกติ

ในกรณีที่เป็นโรคหอบหืดอาการร้ายแรงอาจถึงขั้นหายใจไม่ออกจนไม่สามารถรับออกซิเจนเข้าไปในร่างกายได้ก็อาจทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

 

วิธีดูแลตนเองไม่ให้ ‘โรคหอบหืด’ กำเริบ

แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีทางรักษาให้โรคหอบหืดหายขาด แต่ผู้ป่วยทุกคนก็สามารถดูแลตนเองไม่ให้โรคหอบหืดกำเริบหรือแสดงอาการร้ายแรงได้ ด้วยวิธีดังนี้

• เลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

โดยความถี่โรคหอบหืดเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ เพราะงั้นการจะเลี่ยงไม่ให้โรคหอบหืดกำเริบเลยจำเป็นต้องเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และกระตุ้นระบบการทำงานของอวัยวะส่วนเหล่านี้

• ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

อีกหนึ่งวิธีดูแลตนเองไม่ให้โรคหอบหืดกำเริบก็คือ การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงตามฉบับคนทั่วไป ด้วยการทานอาหารมีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน

• คอยดูแลอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมอยู่เสมอ

เพราะโรคหอบหืดส่วนใหญ่มักกำเริบในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเฉพาะอากาศหนาวหรือชื้นเลยจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของการรักษาสมดุลอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับร่างกายอยู่เสมอ

• เมื่อรู้สึกอาการหอบกำเริบให้หยุดทำกิจกรรมนั้นทันที

สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วว่าอาการโรคหอบหืดกำลังกำเริบ ควรพยายามหยุดนิ่งตั้งสติและพักการทำกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ทันที

• ใช้ยาตามที่แพทย์ประจำตัวแนะนำ

ปกติแล้วเมื่อเข้ารับการรักษาโรคหอบหืด แพทย์ประจำตัวมักจะมีการวางแผนให้ใช้ยาบรรเทาอาการและรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ยาขยายหลอดลม หรือ ยาพ่นควบคุม ฯลฯ คุณควรพกยาเหล่านี้ติดตัวอยู่เสมอและใช้ยาเป็นประจำตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้อาการโรคหอบหืดดีขึ้น หากโรคหอบหืดกำเริบรุนแรงควรรีบพ่นยาแล้วเดินทางไปพบแพทย์ทันที

 

ผู้ป่วยโรคหอบหืดอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันและเจ็บหนักเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรักษาพยาบาลได้เสมอ เพราะงั้นอย่าลืมทำประกันสุขภาพในแผนที่ใช่ ตรงกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการได้ครอบคลุม จาก RABBIT CARE การันตีราคาสุดคุ้ม แต่แคร์ค่าใช้จ่ายครอบคลุม ตั้งแต่ค่าห้องพัก เหมาจ่ายค่ารักษา ความคุ้มครอง IPD และ OPD และอื่น ๆ อีกมากมาย ค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงวันละ 9 บาทเท่านั้น สนใจ คลิก!